จากการประชุมสามัญที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มอบนโยบายให้กับอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ ตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากความหวังและให้ความสำคัญกับงานของ อว.มาก โดยภารกิจเฉพาะหน้าที่ตนขอฝากมหาวิทยาลัยคือ
1.การสร้างกิจกรรมที่เหมาะสมตามความสนใจของเยาวชนทุกกลุ่ม โดยคำนึงถึงยุคสมัยของเยาวชนซึ่งอยู่ในยุคไซเบอร์และเป็นพลังที่จะช่วยพัฒนาประเทศ
2.การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่องในการสร้างนวัตกรรม ผลิตยา วัคซีน ด้วยฝีมือคนไทยสำหรับการป้องกันโรคโควิด-19ซึ่งคาดว่าจะอยู่กับเราไปอีกนาน
3.ขอความร่วมมือมหาวิทยาลัยสนับสนุนนโยบายขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน เพราะมหาวิทยาลัยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศและมีกระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะต้องหารือกันในรายละเอียดกับปลัด อว., ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา, ประธาน ทปอ.ทุกกลุ่ม เพื่อกำหนดจังหวัดให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งนำองค์ความรู้ บุคลากร ลงไปช่วยแก้ปัญหาจังหวัดนั้นๆ
4.ผมมีความคาดหวังที่จะผนึกพลังประสานความร่วมมือระหว่างอธิการบดีมหาวิทยาลัยทุกแห่ง กับผู้บริหารในส่วนของ อว.ที่มาจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เดิม เช่น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จิสด้า) หน่วยงานให้ทุนวิจัยต่างๆ เป็นต้น ร่วมด้วยกลุ่มธุรกิจเอกชน เพื่อให้รู้จักและเรียนรู้งานซึ่งกันและกัน ทั้งสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับกระทรวง ดึงศักยภาพของมหาวิทยาลัยออกมา โดยมีภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศด้วย และเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับภาคเอกชน
โดยจัดทำเป็นหลักสูตร เช่น หลักสูตร อว.4.0 และมอบหมายให้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในฐานะประธานที่ประชุม ทปอ. เป็นผู้ออกแบบหลักสูตรการอบรมครั้งนี้” ศ.ดร.เอนกกล่าวและว่า 5.นอกจากนี้ ตนเร่งการปฏิรูปการอุดมศึกษา การแก้กฎระเบียบต่างๆ โดยจะหารือกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง เพื่อให้เข้าใจและสนับสนุนการปฏิรูปการอุดมศึกษาจะได้สำเร็จ
ซึ่งในการนี้ พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย