วันเสาร์ ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๕ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ในพิธีประทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕
การนี้ เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ อุปนายกสภามหาวิทยาลัย ถวายสักการะ และพระเทพวัชรเมธี, ผศ.ดร. อธิการบดี กราบทูลถวายรายงานพร้อมเบิกบัณฑิตกิตติมศักดิ์และผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับประทานปริญญาบัตรตามลำดับ
โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า
“ในฐานะที่เราต่างก็สำเร็จการศึกษามาจากสถาบันนี้เหมือนกัน จึงขอปรารภข้อคิดบางประการกับท่านสักเล็กน้อย เหมือนเช่นทุกปี ในฐานะรุ่นพี่ พูดกับรุ่นน้อง
ท่านทั้งหลายผู้ได้รับปริญญาบัตร ย่อมเป็นผู้ทรงศักดิ์และสิทธิ์แห่งปริญญาบัตร จึงขอให้พิจารณาความหมายของคำว่า ‘ศักดิ์’ และ ‘สิทธิ์’ ให้ละเอียดถี่ถ้วน
อันคำว่า ‘ศักดิ์’ นั้นแปลว่าพลังอำนาจ หรือความสามารถ ส่วนคำว่า ‘สิทธิ์’ นั้นแปลว่า ความสำเร็จสมปรารถนา หรืออำนาจอันชอบธรรมที่จะทำให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ ผู้ทรงศักดิ์และสิทธิ์แห่งปริญญา จึงพึงตระหนักถึงอานุภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง ซึ่งจะเป็นอื่นไปมิได้เลยนอกเสียจาก ‘ปัญญา’ อันหมายถึงความรอบรู้ ความเฉลียวฉลาดจากการเรียนรู้ การคิด และการอบรมให้บังเกิดผลได้จริงตามที่รู้
บุคคลผู้มีปัญญาที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา ย่อมสามารถรู้ทั่วถึงเหตุถึงผล รู้อย่างชัดเจน รู้เรื่องบาปบุญคุณโทษ รู้สิ่งที่ควรกระทำ และรู้สิ่งที่ควรงดเว้น เหตุฉะนี้ ลำพังบุคคลผู้มีความรู้เฉพาะเพียงวิชาการทางโลก แต่ไม่นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์เกื้อกูลผู้อื่น หรือบังอาจนำไปใช้ในทางทุจริต จึงยังนับเป็นผู้หลง ไม่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีปัญญาที่แท้จริง ตราบจนกว่าจะกลับตัวเป็นผู้มีสติและมีทิฐิในทางชอบ กระทั่งรู้รอบในสัจธรรม พร้อมนำความรู้ความสามารถที่ตนมี ไปเกื้อกูลประโยชน์สุขของมหาชน จึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีปัญญาที่แท้จริง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ตามนัยแห่งพระพุทธานุศาสนี
จึงขอให้บัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย จงเพียรพยายามอบรมตนให้เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยความรู้และความประพฤติ เพื่อจะได้มีกำลังพรั่งพร้อม ในอันที่จะเป็นผู้ประเสริฐ ทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้ทรงภูมิปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ ทรงไว้ซึ่งพลังอำนาจอันชอบธรรม ที่จะนำพาความผาสุกร่มเย็นให้บังเกิดขึ้น ทั้งแก่ตนและแก่ส่วนรวม โดยชอบธรรมทุกประการ”
จากนั้น เสด็จไปทรงปลูกต้นทองกวาวเป็นอนุสรณ์และเพื่อเพิ่มร่มเงาในมหาวิทยาลัย