พระราชปฏิภาณโกศล, ผศ.ดร. อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยเป็นประธานในการซ้อมใหญ่ พิธีประทานปริญญาบัตร ประจำปี ๒๕๖๒ ในวันเสาร์ที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ณ ห้องประชุมอาคารสุชีพ ปุญญานุภาพ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
ทั้งนี้อธิการบดีได้กล่าวให้โอวาทแก่บัณฑิตความว่า “ท่านทั้งหลายได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิต ที่มีอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นบุคคลที่โลกนิยมว่ามีความรู้ความสามารถขั้นอุดม ย่อมถูกคาดหวังจากสังคมว่าจะต้องมีปัญญารอบรู้ใน
พุทธศาสตร์ตามสาขาวิชาที่ศึกษามา บัณฑิตควรระลึกอยู่เสมอว่า การพัฒนาตนให้ก้าวหน้าในวิชาความรู้ และทักษะความสามารถพร้อมคุณธรรมและจริยธรรมนั้นเป็นหน้าที่ที่บัณฑิตต้องปฏิบัติบำเพ็ญให้เป็นไปอยู่เสมอตลอดชีวิต เพราะการหยุดศึกษาหาความรู้ โดยที่มั่นใจว่าตนนั้น รู้มากแล้วบ้าง ฉลาดเฉลียวพอแล้วบ้าง ย่อมเสมอด้วยการถอยหลังตกต่ำลงไปทุกขณะ เพราะผู้ที่หยุดความอุสาหะพากเพียรที่จะอบรมกาย วาจา และใจของตนให้ดีขึ้น จึงเสมอด้วยการถอยหลังลงไปสู่ความเสื่อมทุกขณะ บุคคลผู้ประพฤติเช่นนั้น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนิยามไว้ว่าเป็นบุคคลผู้ประมาท เปรียบได้ดั่งบุคคลที่ตายแล้ว ไม่สามารถจะดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ
เพราะฉะนั้น บัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิตของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยผู้มุ่งความเจริญงอกงามในชีวิตก็ขอจงมุ่งมั่นพัฒนาความรู้ความสามารถของตนให้ลึกซึ้งและกว้างขวางยิ่ง ๆ ขึ้นไป กอปรตนให้ตั้งอยู่ในความเพียร สมดังพระศาสนสุภาษิต ที่ทรงย้ำเตือน ความว่า “ท่านทั้งหลายจงเห็นความเกียจคล้านว่าเป็นภัย และเห็นการปรารภความเพียรว่าเป็นความปลอดภัย แล้วปรารภความเพียรเถิด นี้เป็นพุทธานุศาสนี”
เมื่อท่านทั้งหลายเป็นผู้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทดังที่ได้ปรารภมา ท่านจะเป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยความรู้และความประพฤติ เป็นผู้ประเสริฐ สมตามศาสนสุภาษิตประจำมหาวิทยาลัย ความว่า “วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโเทวมานุเส”อันจะยังเกียรติคุณของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยให้งอกงามไพบูลย์สืบไป”